บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JMART เสนอขายหุ้น IPO 25% เคาะราคาขายหุ้น IPO ที่ 4.00บาท/หุ้น มีส่วนลดให้ประมาณร้อยละ 32 เอาใจนักลงทุน ขณะที่ ASP ในฐานะที่ปรึกษาฯ และ ลีด อันเดอร์ไรท์ เตรียมจูงมือ 3 อันเดอร์ไรท์ บล.ธนชาต บล.บัวหลวง และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เตรียมเปิดให้ผู้ถือหุ้น JMART จองซื้อ 12-14 พ.ย. ส่วนนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไปจอง 19-21 พ.ย. เชื่อเสียงตอบรับ คับคั่ง เหตุธุรกิจมี ผลประกอบการเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง แถมเป็นธุรกิจที่ใช้ความชำนาญพิเศษ ไร้คู่แข่ง มีทิศทางการขยายตัว ชัดเจนในระยะยาว

นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ (“บริษัทฯ” หรือ “JMT”) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่ง รัดหนี้บริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และให้บริการสินเชื่อ เช่าซื้อรถยนต์มือสองระดับแนวหน้าของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น โดยจะขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) จำนวนไม่เกิน 45 ล้านหุ้น และที่เหลือ 30 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป โดยคาดว่า จะจัดสรรให้นักลงทุนสถาบันไม่เกิน 6 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายที่ 4.00บาท/ หุ้น พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและ รับประกันการ จำหน่าย (Lead Underwriter) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้ง แรกด้วย พร้อมกับบริษัทหลักทรัพย์อีก 3 แห่งเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Co Underwriter) ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ซึ่งหลังจากนี้จะเปิดเสนอขายหุ้น IPO ของ บริษัทฯ ให้ผู้ถือหุ้นของ JMART ระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน 2555 ในสัดส่วน การใช้สิทธิ 9.15 หุ้น JMART (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท) จะได้รับสิทธิซื้อหุ้นสามัญ เพิ่มทุน ของ JMT จำนวน 1 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท)และเปิดขายให้กับประชาชนทั่วไป ระหว่าง วันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2555 โดยจะจัดนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน นักวิเคราะห์ และสื่อมวลชน (Roadshow) ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา 10.00 น. ที่ห้อง 1104 ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยและคาดว่าจะเข้าซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ประมาณวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า 'JMT” ปัจจุบัน JMT เป็นบริษัทย่อยของ JMART ที่ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 มีทุนจดทะเบียนจำนวน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้น ละ 1 บาท และมีทุนเรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 225 ล้านหุ้น มูลค่าที่ ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และภายหลังจากเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้น สามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งหุ้นของ JMART จะลดลงจากร้อยละ 100 เหลือร้อยละ 75 เพื่อเปิดทางให้นักลงทุนทั่วไปได้มีโอกาสเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทฯ ได้ โดยตรงส่วนเงินที่ได้จากการเสนอขาย หุ้นในครั้งนี้จะนำไปใช้ซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหาร จัดการเพิ่มขึ้น “มั่นใจว่าหุ้น IPO ของ JMT จะได้รับการ ตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เพราะกำหนดราคาไว้ที่ P/E 13.8 เท่า ในขณะที่บริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง จากผล ประกอบการที่เติบโตในอัตราค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่องทั้งจากการเติบโตของธุรกิจเร่งรัดหนี้สิน การบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง นอกจากนั้นยังได้ กำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลไว้สูงถึงร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ” นายปิยะ กล่าว สำหรับในปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้รวม 324 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 67 ล้านบาท